โรครองช้ำ วิ่งก็ร้าว ก้าวก็เจ็บ แชร์วิธีนวดคลายปวด ฉบับแพทย์แผนไทย

เชื่อว่าหลายคนอาจเคยประสบกับอาการเจ็บที่ฝ่าเท้าโดยไม่ทราบสาเหตุ และมักจะปล่อยผ่านด้วยความคิดที่ว่า “เดี๋ยวก็คงหายเอง” หรือพึ่งพายาแก้ปวดเป็นทางออก แต่นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของ “โรครองช้ำ” ภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพเท้าของคนในยุคปัจจุบัน

โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบและการเคลื่อนไหวที่จำกัด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เราสามารถป้องกันและดูแลสุขภาพเท้าได้อย่างถูกต้อง ก่อนที่ความเจ็บปวดจะลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

ทำความเข้าใจ “โรครองช้ำ” ที่หลายคนเป็นแต่ไม่รู้ตัว 

รองช้ำ หรือในทางการแพทย์เรียกว่า “ผังผืดฝ่าเท้าอักเสบ” คือ การมีจุดเจ็บลางฝ่าเท้า และส้นเท้า เกิดจากเอ็นที่ยึดระหว่างส้นเท้าและกระดูกนิ้วเท้าเกิดการอักเสบ หรือการฉีดขาดของผังผืดฝ่าเท้า (Plantar Fascia) ที่สัมพันธ์กับการเดินลงน้ำหนักเท้า โดยอาการที่พบบ่อยคือ มีอาการปวดส้นเท้า หรือส่วนโค้งใกล้ส้นเท้า โดยเจ็บคล้าย ๆ กับมีของแหลมมาทิ่ม ซึ่งอาการเจ็บนี้จะเป็นมากช่วงเช้า หลังตื่นนอน เมื่อก้าวเท้าแรก และจะมีอาการดีขึ้นเมื่อมีการขยับฝ่าเท้าหรือเดินสักระยะ แต่บางครั้งอาจปวดทั้งวัน หากยืนหรือเดินนาน ๆ

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญประกอบด้วย

• ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป
• ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบเรื้อรัง
• นักกีฬาที่ต้องใช้เท้ามาก ๆ เช่น นักวิ่ง
• ผู้ที่มีฝ่าเท้าแบน หรือส่วนโค้งของเท้ามากผิดปกติ
• ผู้ที่ใส่รองเท้าไม่พอดีกับเท้า
• ผู้สูงอายุโดยเฉพาะเพศหญิง
• ผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ

สัญญาณเตือนของรองช้ำ 

• อาการปวดรุนแรงในก้าวแรกที่ลุกจากเตียงตอนเช้า
• ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งนานๆ
• อาการปวดตึงบริเวณส้นเท้าที่รุนแรงขึ้นเมื่อใช้งานเท้ามากขึ้น
• ความเจ็บปวดที่ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แม้จะเจ็บน้อยลงกว่าตอนเช้า

การป้องกันและการดูแลเบื้องต้น

• เลือกรองเท้าที่มีการรองรับฝ่าเท้าที่ดี
• หมั่นยืดเหยียดกล้ามเนื้อขาและเท้าเป็นประจำ
• ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
• การนวดกดจุดบริเวณกลางฝ่าเท้าเพื่อคลายปวด 

สุดท้ายนี้ หากพบว่าตัวเองมีอาการปวดรองช้ำเรื้อรัง ดูแลเบื้องต้นแล้วยังไม่ดีขึ้น มีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรงนะคะ