
Table of Contents
หลายคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอาจเคยประสบกับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังการเล่นกีฬา โดยเฉพาะเมื่อเริ่มต้นออกกำลังกายใหม่ ๆ หรือเปลี่ยนท่าใหม่ที่ร่างกายยังไม่ชิน หนึ่งในตัวช่วยที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ ก็คือ “บาล์มนวด” แต่คำถามคือ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดจากการออกกำลังกายได้จริงหรือไม่? บทความนี้จะพาไปหาคำตอบพร้อมกับข้อมูลที่ควรรู้ก่อนหยิบบาล์มขึ้นมาใช้
อาการปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายหรือที่เรียกว่า DOMS (Delayed Onset Muscle Soreness) เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นหลังจากออกแรงเกินกว่าที่ร่างกายคุ้นเคย ซึ่งกล้ามเนื้อจะเกิดการฉีกขาดเล็กน้อยในระดับไมโคร ทำให้เกิดการอักเสบและปวดเมื่อยตามมา อาการนี้มักจะเกิดขึ้นหลังออกกำลังกาย 12-48 ชั่วโมง และสามารถอยู่ได้นานถึง 3-5 วัน
บาล์มนวดสมุนไพรช่วยบรรเทาอาการปวดจากการออกกำลังกายได้จริงไหม?

คำตอบคือ “ช่วยได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ” โดยบาล์มนวดไม่ได้รักษาอาการ DOMS ให้หายขาดทันที แต่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ดังนี้:
1. ช่วยคลายกล้ามเนื้อ
บาล์มนวดที่ให้ความร้อนจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงคลายตัวลง เพิ่มความยืดหยุ่น ลดอาการเกร็งและตึงหลังจากออกกำลังกาย
2. กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
เมื่อทาบาล์มนวดแล้วนวดบริเวณที่ปวด จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น ช่วยเร่งการฟื้นฟู
3. ลดความรู้สึกปวด
ส่วนผสมอย่างเถาเอ็นอ่อนหรือหญ้าเอ็นยืดช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เคล็ดขัดยอก และลดการอักเสบของเส้นเอ็น
4. บรรเทาการอักเสบเล็กน้อย
บาล์มนวดบางชนิดมีส่วนผสมของสารต้านการอักเสบจากธรรมชาติ เช่น พลูคาว, พญายอหรือสารสกัดจากพืชสมุนไพร ที่ช่วยลดการอักเสบระดับผิวเผิน
วิธีใช้บาล์มนวดอย่างปลอดภัยและได้ผล
- ทาหลังออกกำลังกายเมื่อเริ่มรู้สึกตึงหรือปวด
- ใช้นวดเบา ๆ บริเวณที่มีอาการ ไม่ควรกดแรง
- ล้างมือให้สะอาดหลังการใช้ โดยเฉพาะก่อนจับหน้า ตา หรืออวัยวะเพศ
- หากมีผิวแพ้ง่าย ควรทดสอบในปริมาณเล็กน้อยก่อนใช้จริง
ข้อควรระวังในการใช้บาล์มนวด
- ไม่ควรใช้บาล์มนวดกับผิวที่มีแผล ผื่น หรือผิวหนังอักเสบ
- หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับแผ่นประคบร้อน เพราะอาจทำให้ผิวหนังไหม้ได้
- หากเกิดอาการระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที
สรุป: บาล์มนวดช่วยได้แค่ไหน?

สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในด้านของการคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดความรู้สึกปวด แต่ไม่ใช่การรักษาในเชิงลึก หากอาการปวดไม่ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
การดูแลร่างกายให้พร้อมก่อนและหลังออกกำลังกาย เช่น การวอร์มอัพ การยืดเหยียด และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นสิ่งที่สำคัญควบคู่กับการใช้บาล์มนวดเพื่อป้องกันอาการปวดเมื่อยซ้ำซาก