Table of Contents
หลายคนที่หันมาใส่ใจสุขภาพ อาจเลือกใช้ ยาสีฟันสมุนไพรล้วน เพราะคิดว่าปลอดภัยและไม่มีสารเคมี แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ การใช้ยาสีฟันสมุนไพรที่ไม่มี ฟลูออไรด์ (Fluoride) อาจทำให้เสี่ยงต่อ ฟันผุ มากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่เรามีการบริโภคอาหารรสหวาน เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และอาหารแปรรูปบ่อย ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบคทีเรียในช่องปากผลิตกรดและทำลายเคลือบฟันได้ง่ายขึ้น
ทำไมสมุนไพรล้วน ๆ ไม่สามารถป้องกันฟันผุได้เต็มที่
สมุนไพรหลายชนิด เช่น กานพลู ใบฝรั่ง หรือชาเขียว มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียบางชนิด และทำให้ลมหายใจสดชื่นก็จริง แต่สมุนไพรเหล่านี้ไม่สามารถ “ซ่อมแซมเคลือบฟัน” หรือ “เสริมความแข็งแรงของฟัน” ได้โดยตรง
สาเหตุที่สมุนไพรอย่างเดียวไม่เพียงพอ
- สมุนไพรช่วยได้แค่ยับยั้งเชื้อโรค แต่ไม่สร้างแร่ธาตุกลับคืนสู่ฟัน
- ไม่สามารถป้องกันการสูญเสียแร่ธาตุจากการกัดกร่อนของกรด
- ไม่ได้มีคุณสมบัติในการสร้าง “ฟลูออโรอะพาไทต์” ที่ทำให้ฟันทนกรดได้ดีกว่า
ดังนั้น ฟลูออไรด์ จึงมีบทบาทสำคัญในการป้องกันฟัน แม้สมุนไพรจะช่วยเสริมสุขภาพช่องปาก แต่หากไม่มี ฟลูออไรด์ ฟันก็ยังคงเสี่ยงต่อการผุได้
บทบาทสำคัญของฟลูออไรด์ 1500 ppm
หลายงานวิจัยและคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟันควรอยู่ที่ 1000–1500 ppm เพื่อให้สามารถป้องกันฟันผุได้จริง
ฟลูออไรด์ทำงานอย่างไรกับฟัน?
- ซ่อมแซมฟันระยะเริ่มต้น – ฟลูออไรด์ช่วยดึงแคลเซียมและฟอสเฟตกลับมาเกาะที่ผิวฟัน ทำให้เคลือบฟันแข็งแรงขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นรูผุถาวร
- สร้างฟลูออโรอะพาไทต์ (Fluoroapatite) – โครงสร้างเคลือบฟันรูปแบบใหม่นี้ทนกรดได้ดีกว่าอะพาไทต์ปกติ ทำให้ฟันแข็งแรงขึ้นและสึกกร่อนยากขึ้น
- ลดการสร้างกรดจากเชื้อแบคทีเรีย – ทำให้สภาพในช่องปากไม่เอื้อต่อการเกิดฟันผุ
- เสริมภูมิคุ้มกันให้ฟันเด็กและผู้ใหญ่ – เด็กที่ใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์อย่างเหมาะสม ฟันแท้มักแข็งแรงตั้งแต่ระยะเริ่มงอก
สมุนไพร + ฟลูออไรด์ ในยาสีฟันคุณมี พริสทีน โปร์ไวท์
สิ่งที่ทำให้ ยาสีฟันคุณมี พริสทีน โปร์ไวท์ แตกต่างจากยาสีฟันสมุนไพรทั่วไป คือการผสมผสาน ฟลูออไรด์ 1500 ppm เข้ากับสมุนไพรแท้ ที่คัดสรรมาเพื่อเสริมการดูแลช่องปาก เช่น ชาเขียว ลดการสะสมของคราบพลัค กานพลู ลดการอักเสบและอาการปวดฟัน ลูกพลับญี่ปุ่น ลดกลิ่นปากไม่พึงประสงค์ ใบฝรั่ง สมุนไพรไทยที่ช่วยต้านเชื้อในช่องปาก และ ไทม์ญี่ปุ่น เสริมการยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อฟันผุ
ผลลัพธ์คือ ได้ยาสีฟันที่ทั้งป้องกันฟันผุ และบำรุงช่องปากด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ดังนั้น เราจึงควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีคุณสมบัติด้านการดูแลสุขภาพฟันและช่องปากอย่างทั่วถึงนั่นเอง
แล้วควรเลือกใช้ยาสีฟันแบบไหนดี?
- ถ้าคุณใช้ยาสีฟันสมุนไพรที่ “ไม่มีฟลูออไรด์” ฟันอาจสะอาดและลมหายใจหอมสดชื่นก็จริง แต่ยังมีโอกาสฟันผุสูง
- หากเลือก ยาสีฟันคุณมี พริสทีน โปร์ไวท์ คุณจะได้ทั้งพลังสมุนไพร และฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ช่วยให้ฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุ และลดปัญหากลิ่นปากได้อย่างครบถ้วน
สรุป
แม้สมุนไพรจะดีต่อสุขภาพช่องปาก แต่ถ้าไม่มี ฟลูออไรด์ ฟันก็ยังเสี่ยงผุได้ง่าย การเลือกยาสีฟันที่ผสาน สมุนไพรฟิวชั่น + ฟลูออไรด์ 1500 ppm อย่าง ยาสีฟันคุณมี พริสทีน โปร์ไวท์ จึงเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความปลอดภัยจากธรรมชาติและประสิทธิภาพในการปกป้องฟันผุอย่างแท้จริง
อ้างอิง:
กรมอนามัย แนะนำใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์พอดีตามช่วงวัย ไม่มีอันตราย ป้องกันฟันผุ
แนวิทางการใช้ฟลูออไรด์ในทางทันตกรรม Guideline on Use of Fluoride in Dentistry
โพสไบโอติก vs โพรไบโอติก ต่างกันยังไง? แล้วเกี่ยวกับช่องปากตรงไหน?