โรคอ้วน รักษาได้ – รู้เท่าทันก่อนสายเกินไป

คุณรู้หรือไม่ว่า? โรคอ้วนไม่ได้แค่ทำให้รูปร่างเปลี่ยนไป แต่ยังแฝงด้วยอันตรายต่อสุขภาพในทุกระบบของร่างกาย และที่น่ากังวลยิ่งกว่า คือ “โรคอ้วนทุพพลภาพ” ซึ่งอาจลดอายุขัยของคุณได้ถึง 7–10 ปี

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ “โรคอ้วน” ให้ลึกซึ้งมากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและได้ผล เพื่อฟื้นคืนสุขภาพที่ดีให้กับชีวิตคุณ

เมื่อไหร่ถึงเรียกว่า “อ้วน”?

การประเมินภาวะอ้วนสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการวัด ค่าดัชนีมวลกาย (BMI)

BMI = น้ำหนัก (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง (เมตร)²

ค่า BMI (kg/m²)หมายความว่า
< 18.5น้ำหนักน้อย
18.5 – 24.9น้ำหนักปกติ
25 – 29.9น้ำหนักเกิน
30 – 34.9โรคอ้วนระดับที่ 1
35 – 39.9โรคอ้วนระดับที่ 2
≥ 40โรคอ้วนระดับที่ 3 หรือทุพพลภาพ

นอกจาก BMI แล้ว ยังสามารถประเมินจาก เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย (Body Fat Composition) ได้เช่นกัน

  • ผู้หญิง: > 30%
  • ผู้ชาย: > 25%

โรคอ้วนทุพพลภาพ (Morbid Obesity) อันตรายแค่ไหน?

หากคุณมี ค่า BMI มากกว่า 40 และไขมันสะสมในร่างกายมากเกินเกณฑ์ ถือว่าเข้าข่าย “โรคอ้วนทุพพลภาพ” ซึ่งส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อสุขภาพ เช่น:

  • เสี่ยง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  • อาจมีไขมันพอกตับ หัวใจทำงานหนัก เสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • เกิดภาวะ ข้อเข่าเสื่อม เจ็บเข่า เดินลำบาก
  • มีโอกาสเป็น หมัน หรือมีบุตรยาก โดยเฉพาะในเพศหญิงจากถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS)
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งหลอดอาหาร

ที่สำคัญที่สุดคือ คุณภาพชีวิตแย่ลง และอาจเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ทำไมต้องรักษาโรคอ้วนทุพพลภาพ?

หลายคนอาจเข้าใจว่าแค่ควบคุมอาหารก็พอแล้ว แต่ในความเป็นจริง โรคอ้วนระดับรุนแรงต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

เพราะหากปล่อยไว้ จะนำไปสู่โรคแทรกซ้อน และอายุขัยสั้นลงถึง 7–10 ปี

ข่าวดีคือ… ไม่ว่าคุณจะอยู่ในระดับใดของโรคอ้วน ก็สามารถรักษาได้!

4 วิธีรักษาโรคอ้วนอย่างปลอดภัยและได้ผล

  1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Lifestyle Modification)
    • เลือกทานอาหารที่ดี มีคุณค่า
    • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มการเผาผลาญ
  2. การใช้ยา (Medication)
    • ใช้ยาควบคุมความอยากอาหาร หรือช่วยเพิ่มการเผาผลาญ
    • ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อให้ปลอดภัยและเหมาะกับร่างกาย
  3. การทำหัตถการผ่านกล้อง (Endoscopic Bariatric Procedure)
    • เช่น การใส่บอลลูนในกระเพาะ หรือเย็บกระเพาะให้เล็กลง
    • ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ฟื้นตัวไว
  4. การผ่าตัดลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery)
    • เหมาะกับผู้ที่มี BMI สูงมาก หรือเคยลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแล้วไม่สำเร็จ
    • เช่น การผ่าตัดแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy) หรือบายพาสกระเพาะ

สรุป

โรคอ้วนไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง แต่เป็นภัยเงียบที่กระทบชีวิตในทุกมิติ อย่ารอให้โรครุมเร้า แล้วค่อยมารักษา

หากคุณกำลังเผชิญปัญหาน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วนในระดับต่าง ๆ ขอแนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

✅ เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพราะสุขภาพดี เริ่มที่น้ำหนักที่เหมาะสม
✅ เราพร้อมเป็นที่ปรึกษาและดูแลคุณในทุกขั้นตอนของการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

โรคอ้วนทุกระดับ เรารักษาได้

โรคอ้วน

“สมุนไพรฟิวชั่น” อนาคตของสมุนไพรไทย ที่พร้อมดังไกลระดับโลก

บาล์มคืออะไร? ทำความรู้จักกับตัวช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยยอดนิยม